ฝนตก
เสียงสองตัวน้อยร้องจิบๆ ขับขาน
นกน้อยบินมาเกาะที่ระเบียงห้อง
หลบฝน
เปียกปอน เปียกปอน
เหลียวมองดูเห็นเจ้าสั่นเทา
คงหนาว คงหนาว
เราเฝ้าดูอยู่ห่างๆ หายใจเพียงแผ่วเบา
ไม่อยากให้เจ้าตกใจกลัว แล้วบินฝ่าสายฝนไป
ใจอยากให้เจ้าได้พัก
อยากได้ยินเสียง
อยากรู้ว่าเจ้ายังดำรงอยู่
แม้จะรู้ว่าเจ้ามิอยู่เนิ่นนาน
เมื่อฝนหยุดเจ้าก็จะลาจากไป จากไป
เสียงขับขานก็จะเงียบหายไป หายไป
5.31.2552
ชีวิตอันอุดม
ค่อยๆ อ่านอย่างละเลียด คล้ายยามจิบไวน์
อ่านวันละบท วันละตอน อย่างผ่อนคลาย
บางวันอ่านแบบง่วงๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
บางวันอ่านแล้วหัวใจสั่นไหว คล้ายเปลโยนยามแกว่งไกว
บางวันอ่านแล้วโล่งโปร่ง สบาย ดุจปุยนุ่นลอยลมบน
บางวันอ่านแล้วเหมือนถูกปอกเปลือกลอกตัวตน
บางวันอ่านแล้วสับสน งงในภาษา
บางวันอ่านแล้วนิ่ง สงบ อิ่มในกายา
บางวันอ่านแล้ววาง และว่างในกมล
นี่แหละ คงเรียกว่า "ชีวิตอันอุดม"
อุดมด้วยมากล้น ความรู้สึก จิตนึกคิด
อุดมด้วยพรรณพีช ในดวงจิต
อุดมด้วยการเฝ้ามองตามความคิดในจิตใจ
อุดมด้วยสิ่งที่มี สิ่งที่เป็น
อุดมด้วยสิ่งที่เห็น สิ่งที่จับต้อง
อุดมด้วยเสียงยามได้สลับ และการรับกลิ่น
อุดมด้วยรสที่ลิ้นได้ลิ้มชิม
อุดมด้วยความต่อเนื่องอย่างไม่ขาดสาย
อุดมด้วยจุดต้น จุดกลางและจุดปลาย
อุดมด้วยกาย จิต และใจอันอุดม
ค่อยๆ อ่านที่ละบท ที่ละตอน
ค่อยๆ ซึมซาบผ่านมาในดวงจิต
ค่อยเป็น ค่อยไปทีละนิด
ด้วยใจที่เชื่อมั่นว่า ทุกชีวิตต่างเต็มเปี่ยมด้วยความอุดม
5.07.2552
ตื่นสาย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)